ธุรกิจเวลเนสมาตามนัด “พฤกษาฯ” ดีเดย์เปิดโรงพยาบาลวิมุต 1 พ.ค. 64 ต่อจิ๊กซอว์ดูแลสุขภาพบ้าน-คอนโดฯในเครือ “รพ.สมิติเวช” ผนึก “ออริจิ้นฯ” เนรมิตเวลเนสเรซิเดนซ์ “มั่นคงฯ” คิดการใหญ่ทุ่ม 2,000 ล้าน เปิดรักษ-RAKxa ศูนย์สุขภาพองค์รวม NC ปักหมุดทำเลประชิด รพ.ศิริราช เปิดบริการ “ศิริอรุณ เวลเนส” โฟกัสการดูแลฟื้นฟูสุขภาพของผู้ป่วยในระยะเปลี่ยนผ่านจากโรงพยาบาลสู่บ้าน
พฤกษาฯเปิดแล้ว รพ.วิมุต
นายแพทย์กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดให้บริการโรงพยาบาลวิมุตตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นมา บนพื้นที่ 4 ไร่ ริมถนนพหลโยธิน ติดสี่แยกสะพานควาย เป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ (tertiary care) ที่สามารถรักษาโรครุนแรงและซับซ้อนได้ อาคารสูง 18 ชั้น จำนวน 236 เตียง ออกแบบตามมาตรฐานสากล JCI โมเดลธุรกิจค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลที่ผู้ใช้บริการเข้าถึงได้ เทียบกับราคาตลาดเฉลี่ยต่ำกว่าธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนด้วยกัน 20%
ไฮไลต์โรงพยาบาลวิมุตมีศูนย์เฉพาะทาง ได้แก่ ศูนย์กระดูก หัวใจ สมอง ศูนย์เบาหวานครบวงจร ศูนย์ผู้สูงอายุ (geriatric center) รวมทั้งให้ความสำคัญกับกลุ่มโรค NCDs (โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง) ซึ่งมีสถิติการเจ็บป่วยสูงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในสังคมไทย มีแพทย์ประจำครอบครัว (family medicine doctor) มี transitional care ฟื้นฟูหลังการเจ็บป่วย เพื่อเตรียมผู้ป่วยก่อนกลับบ้าน รวมทั้งเปิด nursing home ในโรงพยาบาล
ล่าสุดโรงพยาบาลวิมุตได้เข้าไปถือหุ้นใหญ่ในโรงพยาบาลเทพธารินทร์ ถนนพระราม 4 ซึ่งมีจุดเด่นเชี่ยวชาญในด้านโรคเบาหวานและต่อมไร้ท่อ 36 ปี เพื่อรวมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและองค์ความรู้มาพัฒนาศูนย์เบาหวานครบวงจรให้มีความเป็นเลิศ รวมทั้งขยายผลการป้องกัน ดูแลรักษา สู่สังคมให้กว้างขวางยิ่งขึ้นต่อไป
ศุภาลัยปักหมุดสระบุรี
ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ศุภาลัยเปิดตัวโครงการที่พักอาศัยสำหรับคนวัย 50 ปีขึ้นไป ภายใต้แบรนด์ “ศุภวัฒนาลัย” (Supalai Wellness Valley) นับเป็นโครงการแรกของบริษัทเพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัยในอนาคต แนวคิดออกแบบและพัฒนาโดยคำนึงถึงความสะดวกสบายของคนทุกเพศทุกวัยหรืออารยสถาปัตย์ (universal design) โดยรูปแบบขายสิทธิการเช่า เงื่อนไขผู้พักอาศัยต้องมีอายุ 50 ปีขึ้นไป มีสิทธิพักอาศัยภายในโครงการตลอดชีพ โดยทำสัญญาเช่าซื้อระยะยาว โปรโมชั่นพิเศษพักอาศัย 1 คน ราคา 1.3 ล้านบาท และราคา 1.5 ล้านบาท สำหรับ 2 คน
รายละเอียดศุภวัฒนาลัย ชูแนวคิด “สังคมคุณภาพของวัย 50+ เพื่อคุณค่าการมีชีวิตอยู่อย่างยั่งยืน” ตั้งอยู่บนที่ดิน 180 ไร่ ใกล้โค้งแม่น้ำป่าสักที่สวยที่สุด อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี แบบบ้านทันสมัยสไตล์โมเดิร์น ออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความปลอดภัยของผู้สูงวัย พื้นที่ใช้สอย 55 ตารางเมตร 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น/อาหาร และ 1 ห้องน้ำ พร้อมพื้นที่ หน้าบ้าน-หลังบ้าน ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ติดตั้งอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉิน มีศูนย์ service center พร้อมเจ้าหน้าที่พยาบาลให้การดูแลและบริการกิจกรรมความรู้ทั้งด้านสุขภาพ ทำอาหาร ศิลปะ บันเทิง เกษตรกรรม ท่องเที่ยว ฯลฯ เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกของโรงแรมศุภาลัย ป่าสัก รีสอร์ท แอนด์ สปา อาทิ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ฯลฯ
ออริจิ้นฯผนึก “สมิติเวช”
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ออริจิ้นฯร่วมมือกับโรงพยาบาลสมิติเวชในการเชื่อมโยงบริการ “Samitivej Virtual Hospital” หาหมอออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น “Origin Connect” และได้ยกระดับความร่วมมือสู่การเป็น “wellness residences” สร้างความเป็นอยู่ที่ดี เสริมสร้างสุขภาพ และยกระดับคุณภาพชีวิตแบบครบวงจรให้แก่ทั้งลูกบ้านโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมในเครือ 20,000 ครอบครัว
ทั้งนี้ ออริจิ้นฯลงทุนในพื้นที่ส่วนกลางบางส่วน จัดเตรียมบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการมีสุขภาพดี 3 แกนหลัก ได้แก่ 1.การรักษา (therapy) อาทิ การให้คำปรึกษาด้านสุขภาพเบื้องต้น 2.การป้องกัน (treatment) อาทิ สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, oxygen lounge, salt room, trail walking, โยคะ ต่อยมวย ฯลฯ 3.ความงามและเยาว์วัย อาทิ วิตามินบำบัด, private massage room ฯลฯ ส่วนสมิติเวชเข้ามาให้บริการสมาร์ทไลฟ์เซ็นเตอร์ บริการสุขภาพในพื้นที่โครงการ
โดยเริ่มนำร่องในคอนโดมิเนียมหรูแบรนด์พาร์ค ลักชัวรี่ ทั้งโครงการใหม่ อาทิ ไนท์บริดจ์ สเปซ พระราม 4, โซโห แบงค็อก รัชดาฯ และโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จอย่างพาร์ค ออริจิ้น พร้อมพงษ์ ซึ่งมีการรีโนเวตและคาดว่าจะเปิดบริการสมาร์ทไลฟ์เซ็นเตอร์แห่งแรกได้ในปี 2564
นพ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาล BNH กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือกับออริจิ้นฯจะเป็นมิติใหม่ของวงการอสังหาริมทรัพย์และวงการทางการแพทย์ ยกระดับคุณภาพชีวิตตามแนวคิดของสมิติเวช “เราไม่อยากให้ใครป่วย” และตอบโจทย์ด้าน well-being ให้แก่ผู้บริโภคในรูปแบบ wellness residences โดยสมิติเวชมีสาขาโรงพยาบาลครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ชลบุรี ศรีราชา
MK ทุ่ม 2 พันล้าน ผุด RAKxa
นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK เปิดเผยว่า ปี 2564 บริษัทเปิดตัวโครงการรักษ (รัก-ษะ) ศูนย์บูรณาการสุขภาพและการแพทย์แบบองค์รวมแห่งแรกในเอเชียขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Fully Integrative Wellness & Medical Retreat นำวิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่ที่มาใช้ร่วมกับการแพทย์แบบองค์รวม เน้นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท
“มั่นคงฯเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจสุขภาพค่อนข้างมาก เนื่องจากมีแผนการส่งเสริมจากภาครัฐที่ชัดเจน โดยโครงการรักษ ถือเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่จะตอกย้ำความสำเร็จของวิสัยทัศน์ที่ทีมบริหารต้องการให้มีรายได้โอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย 50% กับรายได้รีเคอริ่ง 50% ซึ่งได้ตั้งเป้าเอาไว้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว” นายวรสิทธิ์กล่าว
NC ปักหมุดใกล้ รพ.ศิริราช
นายแพทย์สมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NC เปิดเผยว่า ปี 2564 ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ มีประชากรอายุ 60 ปี สัดส่วน 20% เทรนด์สังคมผู้สูงอายุจะมีความกังวลเรื่องสุขภาพเมื่อมีอายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเปราะบางทางด้านสุขภาพ ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวจำเป็นต้องได้รับการดูแลมากเป็นพิเศษ NC มีการลงทุนศูนย์ดูแลสุขภาพครบวงจรภายใต้ชื่อ ศิริอรุณ เวลเนส นับเป็นสาขาที่ 3 แล้ว
ทั้งนี้ ศิริอรุณ เวลเนส ออกแบบเน้นหลักอารยสถาปัตย์ โทนสีอบอุ่น พื้นที่ใช้งาน 2,000 ตารางเมตร สูง 6 ชั้น ตั้งอยู่ในทำเลศูนย์กลางบนถนนอรุณอมรินทร์ โดยไตรมาส 1/64 สามารถเปิดบริการห้องได้ถึง 27 ห้อง 39 เตียง เมื่อรวมทั้ง 3 ศูนย์ที่เปิดบริการแล้วมีจำนวน 122 เตียง อยู่ภายใต้บริษัท เอ็น.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ NC
โดยศิริอรุณ เวลเนส มั่นใจถึงความพร้อมในการดูแลฟื้นฟูสุขภาพ ในระยะเปลี่ยนผ่านจากโรงพยาบาลสู่บ้าน มีระบบบริการสุขภาพที่ทันสมัย ใส่ใจ ทีมงานมีประสบการณ์พร้อม ทั้งมีแพทย์คอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดช่วงระยะพักฟื้นเพื่อสุขภาพกายและใจของผู้ใช้บริการ มีการรองรับให้บริการ 4 กลุ่มด้วยกัน คือ 1.ผู้ที่อยู่ในระยะพักฟื้น 2.ผู้ที่รอพบแพทย์ตามนัด 3.ผู้ที่สุขภาพดีแต่อยู่ในช่วงของการตรวจพิเศษหรือรักษาเฉพาะทาง และ 4.บริการดูแลผู้สูงอายุที่ต้องการใช้บริการอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ
