ที่ดินเป็นทรัพย์สินที่มีค่า มีราคาค่อนข้างสูง และมีจำนวนจำกัด ทำให้หลายๆคนมีความฝันอยากจะมีที่ดินเป็นของตัวเองสักแปลงหนึ่ง ไว้สร้างบ้านปลูกผัก เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา หาความสุขในวัยเกษียณ บางคนมีจังหวะได้ที่ดินมาในราคาถูก แต่ตัวเองยังไม่พร้อมเข้าไปอยู่ จึงต้องปล่อยที่ดินนั้นให้รกร้างว่างเปล่าไปก่อน บางคนได้มรดกตกทอดมาเป็นที่ดินผืนใหญ่ จะขายก็ยาก สุดท้ายก็ปล่อยมันร้างรกอยู่นั่นเอง
เทคนิคที่หนึ่ง
ถ้าเรามีที่ดินผืนใหญ่ จะกำหนดว่าใหญ่ขนาดไหนก็ระบุชัดเจนลงไม่ได้ เอาเป็นว่า มีพื้นที่หลายไร่ และอยู่ในทำเลที่มีราคาแพง จะหาคนซื้อที่ดินทั้งผืนนี้ค่อนข้างยาก ก็ให้จัดการแบ่งที่ดินเป็นแปลงเล็ก ทำแนวแบ่งเขตให้ชัดเจน อาจหาหมุดหาไม้มาเสียบปักให้สวยงาม จะทำให้ที่ดินผืนใหญ่ที่ขายยาก กลายมาเป็นที่ดินแปลงเล็กๆ ก็จะขายง่ายขายคล่องกว่า
เทคนิคที่สอง
หากมีทุนมากหน่อย ก็ทำเป็นโครงการที่อยู่ที่อาศัย จะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ตึกแถว อาคารพานิชย์ เพื่อขายและทำกำไรได้เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว
เทคนิคที่สาม
หากไม่มีทุนก้อนใหญ่ หรือยังไม่อยากลงทุนอะไรมากเกินไป แล้วที่ดินผืนนั้นอยู่ในที่ชุมชน ใกล้สำนักงาน ห้างร้าน ลองพัฒนาที่ดินนี้ให้เป็นที่จอดรถ เก็บกินค่าเช่า ดีกว่าเปล่าร้างอยู่เปล่าๆ การทำที่จอดรถให้เช่า รายได้ดี และไม่ต้องลงทุนค่าก่อสร้างมากมาย ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการก็ถูกด้วย ถ้าอยู่ในทำเลดี มีกำไรเห็นๆ
เทคนิคที่สี่
สมัยนี้ตลาดนัดข้างทางกำลังฮิตไปทั่วประเทศไม่ว่าในกรุงหรือต่างจังหวัด ตามอำเภอ หมู่บ้านเล็กๆ แทบจะทุกแห่งจะมีตลาดนัดให้คนเลือกซื้อกับข้าวกับปลา ใกล้ๆบ้าน หากมีที่ดินเปล่าอยู่ในทำเลที่ไม่ไกลชุมชน ลองจัดตั้งเป็นตลาดนัด หรือตลาดสดประจำท้องถิ่นดู หรือจะทำเป็นตลาดเฉพาะ เช่นคลองถม โบ๊เบ๊ หรือทำในรูปแบบถนนคนเดินก็ได้ อันนี้ก็เก็บค่าเช่ากินสบายๆอีกเช่นกัน บริจัดการก็ไม่ได้ยาก ลงทุนก็ไม่เยอะ
ทคนิคที่ห้า
สมัยนี้คนสนใจเล่นกีฬาออกกำลังกายกันเยอะ เกมกีฬาพวกฟุตบอล แบดมินตัน กำลังฮิต ลองแปลงที่ว่างเป็นสนามฟุตบอลให้เช่าดู หรือจะทำเป็นโรงยิม สนามแบดมินตัน ก็น่าสนใจ แต่ต้องอยู่ใกล้กลุ่มเป้าหมายพอสมควร ถึงจะทำแล้วดี มีกำไร
เทคนิคที่หก
ถ้ามีที่ดินอยู่ไกลจากชุมชนมาก ลองปรับมาทำเกษตรอินทรีย์ ทำเป็นเป็นไร่นาสวนผสม เป็นแหล่งท่องเที่ยว หรือทำเป็นศูนย์เรียนรู้ เป็นประโยชน์ที่ได้อยู่เอง และให้ประโยชน์กับผู้อื่นไปด้วย
เทคนิคที่เจ็ด
ถ้ามีที่ดินอยู่ตามป่าเขา ไม่มีเวลาไปดูแลบ่อยๆ ให้ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้นที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ เมื่อเวลาผ่านไปหลายสิบปี ต้นไม้เหล่านี้จะให้ผลตอบแทนที่ดีมากๆ ตัวอย่างไม้เศรษฐกิจเหล่านี้ ได้แก่ สัก พยูง สน ยูคาลิปตัส ยางนา เป็นต้น ซึ่งต้นทุนในการปลูกก็ไม่ได้แพงมากมายอะไร กล้าไม้ก็ซื้อได้ง่ายตามแหล่งเพาะขายที่มีมากมายหาได้ทางอินเตอร์เน็ต การมีต้นไม้อยู่ในที่นั้น ถ้าจะขายก็ได้ราคามากกว่าที่ดินเปล่ารกๆแน่นอน