เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านประเภทหนึ่งที่ต้องมีติดไว้นั่นก็คือ “ตู้เย็น” ซึ่งแน่นอนว่าตู้เย็นนั้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้และนอกจากประโยชน์ในด้านการใช้งานต่างๆแล้ว
ตู้เย็นยังเป็นอีกหนึ่งในเครื่องประดับภายในบ้านได้อีกด้วย ดังนั้นเราจะรักษาและดูและตู้เย็นของเรายังไงให้ดูสวยและเหมือนใหม่ตลอดเวลา แอดมินมีเทคนิคมาแนะนำค่ะ
1. จัดเก็บอาหารและสิ่งของให้เป็นระเบียบ
การจัดระเบียบภายในตู้เย็นเป็นหนึ่งในวิธีการดูแลรักษาตู้เย็นที่ดี เพราะจะทำให้สิ่งของต่างๆ ภายในนั้นอยู่เป็นที่เป็นทาง สามารถหยิบใช้ได้ง่าย ไม่ต้องเสียเวลาค้นหานานแล้ว อีกทั้งยังช่วยให้ตู้เย็นกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึง ไม่ทำงานหนัก ซึ่งการจัดเก็บอาหารและสิ่งของภายในตู้เย็นนั้นก็ควรใส่ประเภทอาหารให้เหมาะกับลักษณะของแต่ละช่องแช่ด้วย ดังนี้
- ช่องฟรีซ เหมาะสำหรับเก็บอาหารแช่แข็ง เช่น ไอศกรีม น้ำแข็ง
- ชั้นวางด้านบน เหมาะสำหรับแช่อาหารพร้อมรับประทาน
- ชั้นวางด้านล่าง เหมาะสำหรับแช่เนื้อสด นมสด ไข่ โดยต้องอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดมิดชิด
- ชั้นวางข้างประตู เหมาะสำหรับอาหารที่เน่าเสียได้ยาก เช่น เครื่องปรุง น้ำดื่ม
- ลิ้นชักแช่ผัก เหมาะสำหรับแช่ผัก หรือผลไม้
นอกจากจะใส่อาหารให้เหมาะกับประเภทของแต่ละช่องแช่แล้ว วิธีดูแลตู้เย็นด้วยการจัดตู้เย็นให้เป็นระเบียบก็ยังสามารถทำได้ด้วยการ
- จัดของให้เป็นหมวดหมู่แล้วใส่ลงในกล่อง ทำให้มีพื้นที่ในการแช่ของได้มากขึ้น และควรจัดของที่หยิบใช้บ่อยไว้ด้านหน้า เพื่อให้มองเห็นได้ง่ายและหยิบใช้ได้สะดวก
- ในกรณีที่เป็นกล่องทึบ การเขียนชื่อติดไว้ก็จะช่วยให้หาของได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
- ระบุวันเดือนปีที่หมดอายุเอาไว้ เพื่อลดการตกค้างของอาหารในตู้เย็น และสามารถกำจัดของเสียได้สะดวกขึ้น
- วัตถุดิบจำพวกอาหารสด เช่น เนื้อสัตว์ หากแบ่งเป็นแผ่นแบนๆ จะทำให้ความเย็นเข้าถึงได้อย่างเต็มที่มากกว่าการกระจุกรวมกันเป็นก้อน และละลายน้ำแข็งก่อนนำมาใช้ทำอาหารได้เร็วขึ้นด้วย หรือนำอาหารทะเลมาลงกล่องแทนใส่ถุงพลาสติก ก็จะช่วยไม่ให้น้ำจากอาหารทะเลไหลจนเปื้อนตู้เย็นจนต้องหาวิธีทำความสะอาดตู้เย็นอีก
ที่สำคัญอาหารบางประเภทก็ไม่ควรนำใส่ตู้เย็น เช่น หัวหอมใหญ่ แคร์รอต ฟักทอง หรือหัวไชเท้า ให้วางไว้ในที่ร่มได้ ขนมปังก็ไม่จำเป็นต้องใส่ตู้เย็น เพราะจะทำให้แห้งได้ และของที่มีกลิ่นฉุนก็ไม่ควรนำใส่ตู้เย็นเพราะจะทำกลิ่นไปติดของชนิดอื่นๆ ได้ หากมีความจำเป็นให้ใส่ภาชนะที่สามารถปิดได้มิดชิด เป็นวิธีดูแลตู้เย็นที่ทำง่ายและได้ผลดี
2.น้ำอุ่นทำความสะอาดตู้เย็น
ชั้นวางของในตู้เย็นสามารถทำความสะอาดได้ด้วยการถอดชิ้นส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นชั้นวาง ตะแกรง หรือลิ้นชักออกมาล้างกับน้ำอุ่น โดยผสมน้ำอุ่นกับน้ำยาล้างจาน น้ำส้มสายชู หรือเบกกิ้งโซดา แล้วใช้ผ้าชุบเช็ดส่วนที่สกปรก ที่สำคัญต้องระวังไม่ให้น้ำร้อนเกินไป เพราะวัสดุบางชนิดที่เป็นแก้วอาจเกิดการแตกได้ การน้ำอุ่นเป็นวิธีทำความสะอาดตู้เย็นที่ทำได้ทั้งตู้เย็นด้านนอกและด้านใน หลังจากเช็ดจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรล้างน้ำยาทำความสะอาดส่วนเกินออกให้หมดด้วย เพื่อป้องกันการเกิดสารตกค้าง
3.น้ำยาทำความสะอาดตู้เย็น
น้ำยาสำหรับการทำความสะอาดตู้เย็นสามารถใช้เป็นหนึ่งในทางเลือกวิธีทำความสะอาดตู้เย็นด้านนอกและด้านในได้ เพราะแห้งเร็ว ไม่ทิ้งคราบ อีกทั้งยังสามารถหาซื้อได้ง่าย แต่สำหรับใครที่หาซื้อน้ำยาทำความสะอาดตู้เย็นไม่ได้ อีกหนึ่งทางเลือกของวิธีทำความสะอาดตู้เย็นคือการใช้น้ำยาล้างจาน หรือน้ำยาทำความสะอาดอื่นๆ ที่มีสูตรอ่อนโยนแทน เป็นวิธีการดูแลรักษาตู้เย็นได้เช่นกัน
4.น้ำส้มสายชู
การจัดเก็บอาหารมากมายไว้ในตู้เย็นอาจเป็นส่วนหนึ่งของการเกิดคราบสกปรกและกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ การใช้น้ำส้มสายชูเป็นวิธีทำความสะอาดตู้เย็นที่ทำได้ง่าย เพราะเป็นอุปกรณ์ที่มีอยู่ในครัวเรือนอยู่แล้วและหาซื้อได้สะดวก โดยวิธีทำความสะอาดตู้เย็นทำได้โดยการนำน้ำอุ่นผสมกับน้ำส้มสายชู ¾ ถ้วยตวง จากนั้นใช้ผ้าสะอาดมาชุบกับน้ำที่ผสมไว้ไปเช็ดตู้เย็น ทิ้งไว้สักพักค่อยนำผ้าสะอาดไปเช็ดเอาคราบสกปรกออกแล้วรอจนกว่าตู้เย็นจะแห้งสนิท จึงจัดของเข้าตู้เย็น เพียงเท่านี้ก็จะได้ตู้เย็นที่สะอาดเหมือนใหม่กลับมาแล้ว
5.เบกกิ้งโซดา
สิ่งที่ควรมีติดบ้านอีกอย่างก็คือเบกกิ้งโซดา เพราะมีประโยชน์หลากหลาย เหมาะกับงานบ้านอย่างมาก เช่นเดียวกับวิธีทำความสะอาดตู้เย็นก็สามารถใช้เบกกิ้งโซดาได้เช่นกัน เพราะว่าเป็นสารทำความสะอาดที่ปลอดภัย ซึ่งมีวิธีการผสมคือ เบกกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะกับน้ำร้อน ¼ ถ้วยตวง ผสมให้มีเนื้อสัมผัสคล้ายแป้ง นำผ้าสะอาดมาชุบแล้วไปเช็ดบริเวณที่ฝังคราบ เบกกิ้งโซดาก็จะช่วยดูดกลิ่นเหม็นและกำจัดเชื้อราหรือแบคทีเรียที่ยังหลงเหลือซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้อาหารในตู้เย็นเน่าเสียได้อีกด้วย
ขั้นตอนการทำความสะอาดตู้เย็นให้สะอาดหมดจดเหมือนใหม่
ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้สำหรับเก็บอาหารโดยเฉพาะ จึงจำเป็นต้องมีการทำความสะอาดตู้เย็นอย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อเดือน เพื่อกำจัดเชื้อโรค และแบคทีเรียที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า สำหรับขั้นตอนการทำความสะอาดตู้เย็นมีดังนี้
- ขั้นตอนการทำความสะอาดตู้เย็นเริ่มจากเคลียร์ของออกจากตู้เย็นให้หมด ไม่ควรมีของทิ้งไว้ด้านใน ที่สำคัญต้องถอดปลั๊กตู้เย็นออกก่อนเสมอ เพื่อความปลอดภัย
- ถอดชิ้นส่วนประกอบต่างๆ ออก เช่น ถาดรองแช่ในแต่ละชั้น ชั้นวางของ ลิ้นชักในตู้เย็น ให้ถอดออกมาทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นที่เลือกว่าจะผสมกับน้ำยาล้างจาน น้ำส้มสายชู หรือเบกกิ้งโซดา แล้วใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาด
- ขั้นตอนการทำความสะอาดขอบยางตู้เย็นทำได้โดยนำผ้าชุบเบกกิ้งโซดาผสมน้ำมาเช็ดทำความสะอาด เพื่อกำจัดคราบสิ่งสกปรกออกไป
- เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนในการทำความสะอาดตู้เย็นด้านใน พร้อมกับกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์เรียบร้อยแล้ว ให้ประกอบชิ้นส่วนทุกอย่างเข้าตู้เย็นตามเดิมได้ และอย่าลืมที่จะจัดเรียงของในตู้เย็นให้เป็นระเบียบ แบ่งสรรปันส่วนให้ดี เพื่อที่ตู้เย็นจะได้กระจายความเย็นให้ทั่วถึงกัน นอกจากนี้ก็ควรทำความสะอาดภาชนะที่ใช้ใส่เข้าไปในตู้เย็นด้วย
- สามารถใส่วัสดุที่ช่วยขจัดกลิ่น เพื่อไม่ให้ตู้เย็นเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น ถ่านดับกลิ่น ผงกาแฟสด หรือเบกกิ้งโซดา
ส่วนวิธีทำความสะอาดตู้เย็นด้านนอกนั้นก็สามารถทำได้เช่นเดียวกับด้านใน ผสมน้ำกับน้ำส้มสายชูแล้วใช้ผ้าเช็ด จะช่วยให้ตู้เย็นสะอาดเงาวับขึ้นเลยทีเดียว ส่วนทางด้านหลังของตู้เย็นบริเวณคอยล์ให้ใช้แปรงขดลวดเช็ดลงแล้วใช้ผ้าเช็ดออกนั่นเองค่ะ
รู้อย่างงี้แล้วอย่าลืมไปลองทำกันนะคะทุกคน
ที่มา: https://www.apthai.com/th/blog/know-how/knowhow-how-to-clean-refrigerator
“ถ้าคุณกำลังมองหาที่ปรึกษาด้านวิจัยพัฒนาอสังหาฯ มองมาที่เรา GenZ Property“
☎️ สนใจติดต่อ:
📲 096-789-9662 (ดร.ปู)
📲 098-236-9365(คุณปอ)
📲 Line : @GentZProperty
#service #Consultant #property #investment #management #GenZ #Genzproperty
#บริการ #ปรึกษา #อสังหาริมทรัพย์ #อสังหาฯ #นักลงทุน #บริหารธุรกิจ #รับปรึกษา #ครบวงจร