การแต่งบ้านสไตล์มินิมอลนั้นยังเป็นที่นิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ด้วยความเรียบง่ายใช้ของตกแต่งน้อย มาในคอนเซ็ป น้อยแต่มาก เน้นตกแต่งด้วยสีที่ราบเรียบไม่ฉูดฉาด ทำให้คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าบ้านดูโล่งขึ้น กว้างขึ้น มองแล้วสบายตา วันนี้แอดมินมี 4 วิธีตกแต่งบ้านธรรมดาให้เป็นสไตล์มินิมอลมาฝากกันค่ะ
1. เลือกประเภทการตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณ
ถ้าให้อธิบายคำจำกัดที่เหมาะกับการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลด้วยคำสั้นๆ เพียง 3 พยางค์ วลีที่ว่า ‘น้อยแต่มาก’ น่าจะใกล้เคียงมากที่สุด เพราะหัวใจสำคัญของการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลอยู่ที่การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นต่อการใช้งานในห้องๆ นั้น เสริมความเป็นตัวเองด้วยของแต่งบ้านมินิมอลดีไซน์เก๋เล็กน้อย และที่ขาดไม่ได้ คือ การคุมโทนสีพื้นของเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่ง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะใช้เป็นโทนสีแบบ Monochrome ในการตกแต่ง และเพิ่มลูกเล่นให้ดูสวยงามด้วยน้ำหนักสีแทน ทำให้ภาพรวมของการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลดูสะอาด กว้าง โล่ง และเป็นระเบียบ อย่างไรก็ตาม การแต่งบ้านสไตล์มินิมอลยังสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท ดังนี้
Aesthetic-minded
การแต่งบ้านสไตล์มินิมอลประเภทแรก ได้แก่ Aesthetic-minded ตามความหมายของคำว่า Aesthetic คือ สุนทรียภาพ โดยการแต่งบ้านประเภทนี้เป็นการแต่งบ้านที่เน้นความสวยงาม และความชอบของตัวเองเป็นหลัก ซึ่งของแต่งบ้านมินิมอลทุกชิ้นต้องมาพร้อมดีไซน์เก๋ๆ ไม่ว่าจะวางมุมไหนของบ้านก็เด่นสะดุดตา สำหรับการแต่งบ้านแต่งบ้านสไตล์มินิมอลประเภทนี้เหมาะกับคนอยากได้บ้านที่ตกแต่งด้วยของแต่งบ้านมินิมอลที่ตัวเองชอบ หรือสายโซเซียลอยากได้มุมดีๆ ของบ้านไว้ถ่ายรูปลงโซเซียล
Furniture-free
สำหรับการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลประเภท Furniture-free ความหมายก็ตรงตัว คือ การตกแต่งโดยไม่ใช้เฟอร์นิเจอร์ อย่างการนำเตียงออกแล้วเอาที่นอนวางไว้ที่พื้น หรือการนำเก้าอี้ออกแล้วเปลี่ยนมาปูพรม เพื่อนั่งกับพื้นแทน ซึ่งข้อดีของการแต่งบ้านของประเภทนี้ คือ ตกแต่งบ้านได้ง่ายขึ้น และใช้ของแต่งบ้านมินิมอลน้อยกว่าการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลประเภทอื่น เหมาะสำหรับคนที่อยากตัดปัญหาเรื่องการเลือกเฟอร์นิเจอร์ แต่การแต่งบ้านประเภทนี้ควรเลือกใช้กับห้องส่วนตัวเท่านั้น ไม่เหมาะกับห้องที่มีการใช้งานหลายคน อีกทั้งถ้ามีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับกระดูกหรือกล้ามเนื้อก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะการนั่งหรือนอนกับพื้นอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
Eco
จากเทรนด์รักโลกกำลังมาแรงอยู่ตอนนี้ ทำให้หลายคนหันมาแต่งบ้านสไตล์มินิมอลประเภท Eco มากขึ้น ซึ่งการแต่งห้องประเภทนี้เน้นใช้เฟอร์นิเจอร์ และของแต่งบ้านมินิมอลที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ อย่างโต๊ะไม้ เก้าอี้ไม้ เบาะผ้า หมอนผ้า กรอบรูปไม้ หรือเครื่องจักสาน แทนวัสดุที่ย่อยสลายยาก รวมทั้งเพิ่มความสดชื่นด้วยการปลูกต้นไม้ฟอกอากาศไว้ในบ้านด้วย ทำให้การแต่งบ้านประเภทนี้เหมาะกับคนรักธรรมชาติ และอยากลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด
Efficiency
การแต่งบ้านสไตล์มินิมอลประเภท Efficiency คือ การเลือกใช้เฉพาะของแต่งบ้านมินิมอลที่มีประโยชน์สูงสุดกับผู้ใช้งานเท่านั้น เช่น ในห้องทำงานอาจเลือกนำแค่โต๊ะและเก้าอี้มาวางไว้กลางห้องเท่านั้น หรือการเน้นฟังก์ชันการใช้งานมากกว่าความสวยงาม เพราะฉะนั้น ถ้าอยากแต่งบ้านประเภทนี้จำเป็นต้องลืมพวกของแต่งบ้านมินิมอลน่ารักๆ ไปได้เลย โดยการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลประเภทเหมาะสำหรับคนที่อยากได้ห้องโล่งๆ และคนที่ไม่ค่อยมีเวลาทำความสะอาดบ้าน
Treasurer
การแต่งบ้านสไตล์มินิมอลนั้นไม่จำเป็นต้องซื้อแต่เฟอร์นิเจอร์ และของแต่งบ้านมินิมอลราคาแพงมาใช้ในการตกแต่งเท่านั้น เพราะในความจริงแล้ว ยังมีการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลประเภท Treasurer ซึ่งเป็นการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล ที่เลือกใช้ของแต่งบ้านเพียง 2-3 ชิ้นเท่านั้น ให้มีความโล่ง สบายตา ซึ่งสามารถยึดเป็นแนวทางในการตกแต่งกันได้ ซึ่งของที่เลือกใช้จะต้องเป็นของที่เป็นประโยชน์และมีคุณภาพ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นของที่มีราคาแพง แถมการแต่งบ้านประเภทนี้ยังเหมาะกับผู้ที่อยากประหยัดค่าตกแต่งบ้านอีกด้วย
2. ใช้โทนสีแบบ Monochrome หรือเลือกสีข้างเคียง (Analogous Colours)
การแต่งบ้านสไตล์มินิมอล ส่วนใหญ่แล้วจะใช้สีแบบ Monochrome หรือเลือกสีข้างเคียง โดยสีแบบ Monochrome คือ การเลือกใช้สีเพียงสีเดียวในการตกแต่ง และเพิ่มลูกเล่นด้วยการไล่ระดับสี ในขณะที่แบบสีข้างเคียงจะใช้กลุ่มสีที่มีความใกล้เคียงกัน อย่างเช่นสีเขียว สีเขียวอ่อน และสีเหลือง / สีม่วง น้ำเงินเข้ม น้ำเงินอ่อน และสีฟ้า เป็นต้น ซึ่งการใช้แบบสีประเภทนี้ต้องอาศัยสิ่งที่เรียกว่า “พาเลทสีแบบวงกลม” เพื่อให้การเลือกใช้สีข้างเคียงได้อย่างถูกต้อง แต่ในส่วนของการตกแต่ง และเลือกของแต่งบ้านมินิมอลนั้นมักใช้โทนสีกลุ่มดังต่อไปนี้
ขาว-ดำ-เทา
สีขาว สีดำ และสีเทา ถือเป็นชุดสียอดฮิตในการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล เพราะเป็นชุดสีที่ให้ความรู้สึกเรียบง่าย ซึ่งหากเลือกแต่งห้องด้วยชุดสีนี้ ควรทาผนังห้องด้วยสีขาวและสีดำ โดยทาด้านหนึ่งเป็นสีดำส่วนด้านที่เหลือเป็นสีขาว เพื่อให้ห้องดูมิติมากขึ้น พร้อมกับเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ และของแต่งบ้านมินิมอลสีขาว ดำ และเทา หรือเพิ่มเติมด้วยลายเพ้นท์ กรอบรูป และตะแกรงพลาสติกบนกำแพงในโทนสีเดียวกันก็จะช่วยเพิ่มลูกเล่นมากขึ้น
เอิร์ธโทน
สีเอิร์นโทนเป็นอีกหนึ่งชุดสีที่กลุ่มคนรักธรรมชาตินิยมนำมาใช้แต่งบ้านสไตล์มินิมอล เนื่องจากการเป็นการนำเอาสีจากธรรมชาติมาใช้ในการตกแต่ง ช่วยเพิ่มความรู้สึกอบอุ่น และดูหรูหรามากขึ้น โดยชุดสีที่นิยม คือ สีน้ำตาล สีเทา สีขาว สีเบจ และสีเขียว สำหรับในการตกแต่งผนังอาจเลือกใช้สีขาว หรือน้ำตาลอ่อน ส่วนของแต่งบ้านมินิมอล เน้นวัสดุที่ทำมาจากธรรมชาติ หรือคุมโทนในสีน้ำตาล พร้อมกับปลูกต้นไม้ประมาณ 1-2 ต้นไว้ในห้อง เพื่อความสดชื่น และความร่มรื่นให้กับห้องมากขึ้น
สีฤดูใบไม้ผลิ
ถ้าพูดว่าจะแต่งบ้านสไตล์มินิมอลด้วยโทนสีฤดูใบไม้พลิ หลายคนอาจนึกภาพไม่ออก เพราะประเทศไทยไม่มีฤดูใบไม้ผลิ แต่จริงๆ แล้วหากอยากแต่งบ้านด้วยโทนสีนี้ก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด โดยสามารถดูตัวอย่างสีได้จากชุดสี SPRING BLOSSOM COLOR PALETTE ซึ่งเป็นชุดสีเขียวอ่อน สีชมพู และสีน้ำเงิน ทำให้การแต่งห้องโทนสีนี้มีครบทั้งความอบอุ่น อ่อนโยน และดูหนักแน่น สำหรับการปรับให้เข้ากันแนะนำให้เลือกใช้ผนังสีขาว และใช้ของแต่งบ้านมินิมอลในสีฤดูใบไม้ผลิ หรือสีข้างเคียง พร้อมกับเพิ่มลูกเล่นด้วยลวดลายดอกไม้ หรือปรับใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ก็จะทำให้ดูอบอุ่นมากยิ่งขึ้น
สีหมอกยามเช้า
ชุดสีหมอกยามเช้าเป็นอีกหนึ่งชุดสีที่นิยมนำมาใช้ในการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล เพราะเป็นชุดสีโทนเย็นที่ตรงกับคอนเซปต์เรียบง่ายของบ้านสไตล์มินิมอล ซึ่งโทนสีในชุดนี้จะเป็นสีดำ สีเทา สีเบจ และสีน้ำตาลอ่อน แต่ถ้าคิดว่าจะทำให้ห้องมืดเกินไปอาจเปลี่ยนมาใช้สีหมอกยามเช้าในฤดูหนาวที่จะใช้สีฟ้า สีเบจ สีน้ำเงิน เทาอิฐ และส้มอ่อนแทน โดยอาจเลือกใช้สีเทาควันบุหรี่โทนสว่างเป็นสีหลัก และเลือกใช้ของแต่งบ้านมินิมอลในชุดเดียวกัน อย่างโทนเทา ฟ้า หรือน้ำเงินก็จะทำให้ลงตัวมากยิ่งขึ้น
3. ในการเลือกของตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอล ต้องพิจารณาอะไรบ้าง?
อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลนั้นเป็นการตกแต่งที่เน้นความเรียบง่ายมาเป็นอันดับหนึ่ง จำเป็นต้องจำกัดจำนวนเฟอร์นิเจอร์ และของแต่งบ้านมินิมอล ด้วยเหตุนี้จึงต้องเลือกอย่างพิถีพิถัน โดยแนะนำให้เลือกของตกแต่งจากคุณสมบัติต่างๆ ดังนี้
ความจำเป็น
ในการเลือกของแต่งบ้านมินิมอล สิ่งแรกที่ต้องนำมาพิจารณา คือ ความจำเป็นในการใช้งานในชีวิตประจำวันมากที่สุด หรือควรเลือกของที่จำเป็นก่อนพวกของแต่งบ้านมินิมอลเล็กๆ น้อยๆ ที่ไว้ตกแต่ง เพื่อเสริมความสวยงาม โดยตัวอย่างเฟอร์นิเจอร์ที่มีความจำเป็นในห้องต่างๆ มีดังนี้
- เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า โต๊ะข้างเตียงสำหรับวางของ และโคมไฟสำหรับห้องนอน
- โซฟา และโต๊ะวางของสำหรับห้องนั่งเล่น
ดีไซน์เรียบง่าย
ถึงแม้ว่าการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลจะดูเหมือนไม่ยาก เพราะใช้เฟอร์นิเจอร์ และของแต่งบ้านมินิมอลน้อยชิ้น แต่การจะแต่งให้สวย และมีสไตล์นั้นก็อาจทำให้หลายคนรู้สึกหนักใจได้ไม่น้อย เพราะไม่รู้ว่าจะเลือกหยิบของแบบไหนมาไว้ในห้องดี ซึ่งหนึ่งวิธีที่ง่ายที่สุด คือ การเลือกของใช้ที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ หรือโลหะพื้นผิวเรียบ ยิ่งถ้าเลือกที่มีโทนสีธรรมชาติก็จะทำให้ห้องดูอบอุ่นมากขึ้น โดยตัวอย่างของตกแต่งบ้านดีไซน์เรียบง่าย มีดังนี้
- โต๊ะไม้ และเก้าอี้ไม้
- โซฟาผ้า และหมอนผ้า
- กรอบรูปไม้
- ชั้นวางของไม้
- โคมไฟเหล็ก
เน้นฟังก์ชันการใช้งานมากกว่าปริมาณ
สำหรับใครที่อยากแต่งบ้านสไตล์มินิมอลให้ตรงตามคอนเซปต์ ต้องจำให้ขึ้นใจว่า ให้ยึดฟังก์ชันมากกว่าปริมาณ ซึ่งในปัจจุบันมีเฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชันให้เลือกมากมาย เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดพื้นที่ภายในห้องแล้ว ยังได้ประโยชน์มากกว่าด้วย ตัวอย่างของแต่งบ้านมินิมอลตอบโจทย์เรื่องฟังก์ชัน มีดังนี้
- โซฟาเบดที่เป็นทั้งโซฟาและที่นอนได้
- โซฟาที่มีช่องใส่ของ ใช้สำหรับนั่ง และเก็บของไว้ภายในได้
- เตียงนอน 2 ชั้น โดยชั้นบนเป็นที่นอน และชั้นล่างเป็นโต๊ะทำงาน
เพิ่มมิติด้วย Texture ที่หลากหลาย
การแต่งบ้านสไตล์มินิมอลให้มีสไตล์ และน่าสนใจนั้นนอกจากการคุมโทนสี และเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีความจำเป็นแล้ว การเสริมของแต่งบ้านมินิมอลที่มี Texture ที่หลากหลายก็จะช่วยให้ห้องๆ นั้นมีมิติมากขึ้น ตัวอย่างการแต่งบ้านด้วยของตกแต่งบ้านที่มี Texture ที่หลากหลาย มีดังนี้
- ชุดเก้าอี้หวาย
- ปูพื้นด้วยกระเบื้องที่มีลวดลาย
- การตกแต่งกำแพงด้วยวอลเปเปอร์
- การตกแต่งด้วยผ้าขนสัตว์
4. จัดแสงสว่างให้เหมาะสม
การแต่งบ้านสไตล์มินิมอล จะให้ความสำคัญกับการสร้างความอบอุ่น แสงสว่างจึงมีส่วนสำคัญไม่แพ้องค์ประกอบอื่นๆ เลย ซึ่งถ้าเป็นการแต่งบ้านสไตล์มินิมแลจะเน้นเปิดรับแสงจากธรรมชาติให้เข้ามาภายในบ้านผ่านทางหน้าต่าง โดยจะต้องออกแบบในส่วนของหน้าต่าง และจัดระเบียบสิ่งของให้สมดุล เพื่อไม่ให้บังแสงจากภายนอก หากกังวลว่าแสงจะเข้ามามากเกินไป สามารถใช้ม่านลูกไม้ที่ช่วยให้แสงเข้าได้อย่างรำไร
สำหรับการเริ่มต้นในการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล ในช่วงแรกการยึดหลักน้อยแต่มากอาจไม่ใช่เรื่องยาก เพราะผู้ที่อยากได้บ้านมินิมอลนั้นย่อมพิถีพิถันในทุกขั้นตอน แต่เมื่ออยู่ไปเรื่อยๆ ข้าวของก็เริ่มเพิ่มขึ้น จากสไตล์มินิมอลกลายเป็นมินิมาร์ท ดังนั้น ถ้าอยากให้บ้านคงสไตล์มินิมอลไปเรื่อยๆ ให้หยิบเอากฏ “One In, One Out” มาใช้ เมื่อซื้อของชิ้นใหม่เข้าบ้าน ให้หยิบของเก่าออกไป จะช่วยตัดของที่ไม่จำเป็นออกไปได้ง่ายขึ้น และทุกอย่างในห้องก็จะมีแต่ของที่จำเป็นเท่านั้น
การแต่งบ้านสไตล์มินิมอลต้องให้ความสำคัญกับเลือกเฟอร์นิเจอร์ และของแต่งบ้านมินิมอล โดยยึดหลักความจำเป็นมาก่อน ซึ่งถ้าไม่รู้ว่าจะเลือกแบบไหน อาจเลือกประเภทการตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลที่ชอบและเหมาะกับตัวเอง และอย่าลืมให้ความสำคัญกับแสงสว่าง รวมถึงกฏ “One In, One Out” ด้วย เพียงเท่านี้ก็จะทำให้บ้านที่เรารักคงเป็นสไตล์มินิมอลไปอีกนานเลยค่ะ
ที่มา: 4 วิธีตกแต่งบ้านธรรมดาให้เป็นสไตล์มินิมอล | AP Thai
“ถ้าคุณกำลังมองหาที่ปรึกษาด้านวิจัยพัฒนาอสังหาฯ มองมาที่เรา GenZ Property“
☎️ สนใจติดต่อ:
📲 096-789-9662 (ดร.ปู)
📲 098-236-9365(คุณปอ)
📲 Line : @GentZProperty
#service #Consultant #property #investment #management #GenZ #Genzproperty
#บริการ #ปรึกษา #อสังหาริมทรัพย์ #อสังหาฯ #นักลงทุน #บริหารธุรกิจ #รับปรึกษา #ครบวงจร