นางนิตยา ชไนศวรรย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกเฮลท์แคร์ เซอร์วิส จำกัด (BHS group) เปิดเผยว่า ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์แบบ กลายเป็นอีกหนึ่งเมกะเทรนด์ (Mega Trend) สำคัญที่เอื้อต่อการสร้างธุรกิจ
จากสถิติสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระบุว่าในปี 2564 ประเทศไทยมีผู้สูงวัยจำนวน 13.8 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 20% โดยประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์แล้วเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา และยังคาดการณ์ว่าในปี 2583 สัดส่วนประชากรสูงวัยจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 31.3 % ที่สอดคล้องกับข้อมูล จากแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของประชากรสูงวัยทั้งในระดับโลกและระดับประเทศ องค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ว่าในปี 2573 จะมีประชากรสูงอายุมากถึงประมาณ 1.4 พันล้านคน และจะเพิ่มเป็น 2 พันล้านคนในปี 2593
ทั้งนี้ BHS group และ Doctor A to Z ผู้คร่ำหวอดในธุรกิจ Nursing Home และ Health Tech ได้จับมือกัน ถอดประสบการณ์ตรงของผู้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมธุรกิจดูแลผู้สูงอายุและดิจิทัลเทคโนโลยีแห่งอนาคตเพื่อผู้สูงอายุ เปิดตัว Agyhero ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุครบวงจร โดยมีเป้าหมายขยายธุรกิจให้ครอบคุลมทั้งระบบนิเวศ (Eco system) ของธุรกิจการดูแลผู้สูงอายุเพื่อรองรับเมกะเทรนด์สังคมสูงวัยในประเทศ
โดยเริ่มต้นนำร่องเปิดตัวศูนย์บ่มเพาะ Business Training Center สำหรับผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ ผู้จัดการศูนย์ และ ผู้ดูแลผู้สูงอายุ ที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ให้สามารถคว้าโอกาสการเติบโตได้อย่างยั่งยืน ผ่าน Elderly care ecosystem ที่มีทั้งองค์ความรู้ทรัพยากรและพันธมิตรเครือข่ายที่สั่งสมประสบการณ์มาเกือบ 20ปี เสมือนเป็นพี่เลี้ยง (Mentor) ช่วยให้ผู้ประกอบการก้าวเดินในธุรกิจนี้ได้อย่างมั่นคง โดยไม่ต้องไปลองผิดลองถูกด้วยตัวเองให้เกิดมาตรฐาน ถูกต้องบนกฎหมายใหม่ที่เพิ่งบังคับใช้
ซึ่งการลงทุนในธุรกิจศูนย์ผู้สูงอายุ (Elderly care center) ให้ได้มาตรฐานสากลเป็นหัวใจสำคัญ ของการก้าวข้ามความผันผวนของเศรษฐกิจมหภาคและความเสี่ยง ในการบริหารจัดการศูนย์ผู้สูงอายุ รวมทั้งเปิดให้บริการธุรกิจแฟรนไซส์ดูแลผู้สูงอายุสำหรับผู้ประกอบการที่มีความสนใจประกอบกิจการด้านการดูแลผู้สูงอายุซึ่งมีโอกาสเติบโตอย่างมาก และร่วมเป็นหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ World Nursing Home Destination ตามนโยบายประเทศด้าน Medical Hub
นายแพทย์อนุชา พาน้อย ผู้บริหาร Doctor A to Z เปิดเผยว่า การร่วมกันเปิดตัว Agyhero นับเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในธุรกิจและบริการดูแลผู้สูงอายุ โดยการสร้างมาตรฐานใหม่ จะดำเนินการภายใต้ 3 แกนหลัก ด้วยประสบการณ์ องค์ความรู้ และเทคโนโลยีเพื่อการดูแลผู้สูงอายุเข้ามาช่วยยกระดับความสามารถในการบริหารธุรกิจและการแข่งขัน และ รองรับการเติบโตของตลาดผู้สูงอายุ
โดยมีเป้าหมายในการยกระดับประเทศไทยให้เป็น World Nursing Home Destination สร้างความพร้อมในการดูแลผู้สูงอายุทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยดำเนินการผ่าน 3 แกนหลัก ได้แก่
1.Business Training Center
ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ ที่มีแหล่งฝึกดูงานในสถานที่จริง พร้อมรองการฝึกอบรมและดูงานสำหรับนักลงทุน เจ้าของศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ผู้จัดการศูนย์ และผู้ดูแลผู้สูงอายุ รวมไปถึงโรงเรียนบริบาลผลิต Care Giver
2.เทคโนโลยีดิจิทัลและแพลตฟอร์ม
AgyHero มุ่งเน้นการพัฒนา และนำเทคโนโลยีดิจิทัล เข้ามาใช้งานเพื่อตอบโจทย์โลกแห่งนวัตกรรม ไม่ว่าจะเป็น ระบบการดูแลผู้ป่วยในรูปแบบ Internet of medical thing (IOMT), หุ่นยนต์สั่งการด้วยสมองช่วยฟื้นฟูผู้สูงอายุ ผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต รวมไปถึงการตรวจคุณภาพการนอนหลับด้วยเครื่อง Sleep test ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วยตอบโจทย์การดูแลอย่างมีคุณภาพ นอกจากนี้ ยังมี แพลตฟอร์ม Marketplace ซึ่งเป็นศูนย์รวมบริการของศูนย์ Nursing Home และบริการสุขภาพผู้สูงอายุออนไลน์ เช่น บริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ บริการจัดส่งยาถึงบ้าน
3.บริการด้านสุขภาพและผลิตภัณฑ์ดูแลผู้สูงอายุ
บริการด้านสุขภาพที่จะเข้ามารองรับธุรกิจแฟรนไชส์ ประกอบไปด้วย ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้สูงอายุ ร้านยาและเวชภัณฑ์ รวมไปถึง ผลิตภัณฑ์สำหรับการดูแลผู้สูงอายุ โดยเฉพาะที่จะเข้ามาตอบโจทย์การดูแลสุขภาพของผู้สูงวัยให้ครบวงจร
ที่มา : https://www.thansettakij.com/