การฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ครอบคลุมกว่า 50% ของพลเมืองไทยกลายเป็นความหวังเดียวของบริษัทพัฒนาที่ดินที่จะกอบกู้วิกฤติเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศก้าวไปข้างหน้าภายหลังเห็นจีนประเทศกำลังซื้อหลักฟื้นตัว พิจารณาจากรายงานสถาบันวิจัยการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน (CTA) คาดการณ์ยอดเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของจีนปีนี้อยู่ที่ 4.1 พันล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีนเติบโตขึ้นแม้วันนี้จีนยังไม่มีนโยบายปล่อยพลเมืองออกนอกประเทศโดยเฉพาะไทยที่ยังมีความเสี่ยงสูงแต่ไม่เกินปีหน้าการเดินทางน่าจะคึกคักขึ้น
ดังนั้น วัคซีนคือตัวแปรสำคัญส่งผ่านให้จีนก้าวข้ามวิกฤตินี้ไปได้หนังตัวอย่างม้วนนี้กับการหันกลับมามองยอดผู้ติดเชื้อในบ้านเราที่ยังขยายวงตลอดจนเสียงเรียกร้องของคนในประเทศให้กระจายการจัดหาและฉีดวัคซีนมากขึ้น
กลายเป็นตัวเร่งให้รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีประกาศฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติปรับการจัดหาจาก100ล้านโดสเป็น 150 ล้านโดสในปี 2565 หรือมากกว่านั้นพร้อมปูพรมฉีดเข็มแรกกดการระบาดเบื้องต้น 50 ล้านคนภายในปีนี้ โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายอย่างภูเก็ตจังหวัดหัวเมืองใหญ่ที่มีแผนเปิดประเทศให้ได้วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ แต่ยังมีคำถามตามมา เกรงว่าจะไม่เป็นไปตามแผนเพราะนั่นเป็นเพียงตัวเลขที่ภาครัฐตั้งขึ้น ขณะการฉีดวัคซีนของคนในประเทศเวลานี้ยังไม่ถึง 2 ล้านคน
ถึงกระนั้นมาตรการดังกล่าวได้สร้างความมั่นใจให้ดีเวลอปเปอร์เพิ่มขึ้นเพราะอย่างน้อยลูกค้าชาวจีนส่วนใหญ่ไม่มีรายใดทิ้งเงินดาวน์ในทางกลับกันยังยืนยันรอเดินทางกลับมาโอนกรรมสิทธิ์จากกลยุทธ์อะลุ่มอล่วยระหว่างกันยืดการผ่อนดาวน์ให้เหมือนกับลูกค้าไทย 3 เดือน 6 เดือน 9 เดือน 12 เดือนหรือมากกว่านั้นจนครบสัญญาดีกว่าปล่อยให้ลูกค้ากำลังซื้อสูงกลุ่มนี้หลุดมือไป สะท้อนว่าอสังหาฯ ไทยโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมยังมีความหวังจากลูกค้าชาวจีนความต้องการยังมีอีกมากจากการเชื่อมต่อบริษัทตัวกลางทั้งจีนและฝั่งไทย เพราะ 1.ราคาไม่แพง 2.คุ้มค่าลงทุน 3.ถือกรรมสิทธิ์ได้ 4.ไทยปลอดภัยสูง เมื่อเทียบกับประเทศอื่น 5.สาธารณสุขของไทยดี
ตัวช่วยระบายสต๊อกคอนโดฯ อีกตัวที่น่าจับตา คือมาตรการขยายเพดานให้คนต่างชาติซื้อและเช่าอสังหาฯ ในประเทศไทยได้มากขึ้น โดยอยู่ระหว่างแก้ไขระเบียบข้อกฎหมายคอนโดฯ จาก49%เป็น 70-80%ปลดล็อกซื้อบ้านพร้อมที่ดินมูลค่า10ล้านบาทขึ้นไป อีกทั้งยังเช่าระยะยาวเกิน30ปีได้ในรูปแบบเดียวกับคนไทยเพราะประเมินแล้ววันนี้อสังหาฯ ไทยมาถึงจุดเปลี่ยน จากสถานการณ์โควิด-19 หากไม่ใช้ไม้นี้ การกลับมาฟื้นในภาพรวมคงยากยิ่ง
ดังนั้นต่างชาติโดยเฉพาะจีนคือตัวช่วยในระยะยาว ท่ามกลางกำลังซื้อคนไทย บอบช้ำยอดปฏิเสธสินเชื่อมีสูงโดยเฉพาะฐานลูกค้าใหญ่ กลุ่มระดับกลาง-ล่าง กว่า80% เรื่องนี้นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทพฤกษาเรียลเอสเตทจำกัด (มหาชน) ตอกย้ำว่า ยัง บริษัทพุ่งเป้าไปที่จีนกำลังซื้อหลัก ในระยะยาว ที่ผ่านมามีมูลค่าการซื้อขายแล้วไม่ต่ำกว่า3,000ล้านบาท แม้ตัวเลขเพียง 10% ของมูลค่ารวมทั้งบริษัทแต่เป็นมูลค่าที่สูง ลูกค้าที่ซื้อไปไม่มีใครทิ้งดาวน์กลับกัน มีการตอบกลับว่าพร้อมโอนทันทีหากทั้งสองฝ่ายเปิดประเทศ
หากรัฐบาลฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมจริงเพียง 50% ของประชากรทั้งประเทศได้ภายในปีนี้เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยรอดพ้นวิกฤติ ขณะเดียวกันควรเพิ่มเทคนิควัคซีนวีซ่าที่ประเมินว่ามีความจำเป็นต่อการดึงเศรษฐีต่างชาติเข้าประเทศและสนับสนุนให้รัฐขยายให้ต่างชาติซื้ออสังหาฯ ไทยเพิ่มขึ้นที่ยืนยันเช่นเดียวกันนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิตประธานเจ้าหน้าที่สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทอนันดาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) มองว่า จีนยังมีกำลังซื้อที่ดี และทันทีที่เปิดประเทศนักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะจีนจะกลับมาอย่างมหาศาล บริษัทยังผลักดันทุกช่องทางขายโครงการให้กับจีนในขณะนี้
ไม่ต่างจาก นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) สะท้อนว่ารัฐต้องเร่งกระจายการฉีดวัคซีนโดยเร็วเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศหากวิกฤติคลี่คลายได้ก่อนปลายเดือนพฤษภาคมจะมีเวลาทำการตลาดในการดึงยอดได้ราว 1 เดือนเท่านั้น ซึ่งยังระบุไม่ได้ว่า ภาวะทางเศรษฐกิจจะเป็นใจหรือไม่
ขณะทั้งปี ความหวังเดียว คือ แผนงานที่รัฐบาลระบุไว้ว่า ณ สิ้นปี 2564 จะสามารถนำเข้าวัคซีนได้ครบ 100 ล้านโดส ทยอยฉีดให้กับประชากร 50% จะได้วัคซีนครบโดส ใช้ชีวิตปกติ เปิดทางกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้ง และยังคาดหวังข่าวดี จากกรณีทีมฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลมีแนวคิดขยายสัดส่วนการซื้อคอนโดฯ ของต่างชาติให้ได้เกิน 49% ขณะเดียวกันเปิดช่องให้ครอบครองในโครงการแนวราบได้ราว 30% หากนโยบายดังกล่าวมีผลจริง จะช่วยภาพรวมได้อย่างมาก เพราะสาธารณสุขไทยที่ค่อนข้างได้รับการยอมรับ ทำให้ไทยเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายที่ต่างชาติมีความต้องการด้านที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ จากข้อจำกัดปิดประเทศ ทำให้ได้รับผลกระทบ จากการที่ต่างชาติเลื่อน และยกเลิกโอนกรรมสิทธิ์จำนวนหนึ่ง โดยปี2563 ลูกค้าจีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ และมาเลเซีย หายไปราว 1.5 พันล้านบาทโอนได้จริงราว 6 พันล้านบาทและ ครบกำหนดโอน อีกราว 5 พันล้านบาท โดยคาดหวังยอดยกเลิกคงไม่เกิน 20% หรืออาจไม่มีการยกเลิกเลยหากเปิดประเทศได้เร็ว
เช่นเดียวกับ อสังหาฯ ภูเก็ตที่ มีความหวังในเดือนกรกฎาคม หากเปิดประเทศได้ตามแผนคนต่างชาติทั้งจีนและชาติในแถบยุโรปอาจเดินทางมาโอนกรรมสิทธิ์ที่ยังค้างคาไม่ต่ำกว่า 80% มูลค่านับหมื่นล้านบาท ที่นายพัทธนันท์ พิสุทธิ์วิมล นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ต ตั้งข้อสังเกตว่า ยังไม่มีรายใดยกเลิกซื้อขาย มองว่าเป็นโอกาสที่ดีหากรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ตามเป้า
ด้านศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ที่ย้ำการหายไปของลูกค้าชาวจีน ซื้อคอนโดฯ มีสัดส่วนเพียง 6% ในช่วงครึ่งปีแรกปี2563 และ ชะลอโอนกรรมสิทธิ์ จากการระบาดโควิด-19 ทำให้ไม่กระทบมากนัก ขณะตัวเลข นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในไทยเดือนมกราคม-มีนาคม2564 บริษัท ฟินิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ บริษัทวิจัยอสังหาริมทรัพย์พบว่า มีชาวจีนเพียง8% จำนวน 1,520 ราย จากต่างชาติทั้งหมด 20,172 ราย ปี2563 จำนวน 1.2ล้านราย คิดเป็น 19% ของต่างชาติ 6.7 ล้านรายและตัวเลขสูงสุดปี ที่ ต่างชาติเข้าไทยมากที่สุดปี 2562 ชาวจีน 10.9ล้านราย จากต่างชาติทั้งหมด 39ล้านราย สะท้อนว่ากำลังซื้อการจับจ่ายส่วนนี้หายไปแทบไม่เหลือ
อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวจะพลิกกลับมาดังเดิมหรือใกล้เคียง เหมือนช่วงก่อนสถานการณ์โควิดระบาดได้หรือไม่โดยเฉพาะจีน..นาทีนี้คงต้องเดิมพันด้วยการจัดหาวัคซีนและทำอย่างไรให้วัคซีนเข้าถึงพลเมืองไทยได้ตามเป้าหมายของรัฐบาลหากทำไม่ได้ ความฝันความหวังฟื้นเศรษฐกิจประเทศ การลืมตาอ้าปากของอสังหาฯไทย อาจต้องจมดิ่งต่อไป