หลายต่อหลายครั้งเราเห็นคำว่า ‘อัตราการดูดซับ’ ปรากฏบนข่าว ซึ่งบางทีก็อาจสร้างความสงสัยให้กับผู้ที่เพิ่งเริ่มศึกษาเรื่องอสังหาริมทรัพย์ ว่ามันคืออะไร วันนี้เราจะมาไขข้องสงสัยกันค่ะ
อัตราการดูดซับ หรือ Absorption Rate คือ ดัชนีชี้วัด ‘ความต้องการ’ หรือ ‘อุปสงค์’ ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ว่าในทำเลนั้นๆ หรือ ตลาดของอสังหาฯ แต่ละประเภท เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากน้อยเพียงใด ซึ่งสามารถคำนวณได้โดยการนำหน่วยที่ขายได้ หารด้วยจำนวนยูนิตทั้งหมดที่โครงการมี ยิ่งค่าสูง แสดงว่ายังเป็นที่ต้องการมาก
อัตราการดูดซับนี้ เป็นหนึ่งในดัชนีที่ใช้คาดการณ์ภาวะธุรกิจ (Business Expectation Index) ซึ่งโดยส่วนมากทางภาครัฐจะเป็นผู้เก็บรวบรวมข้อมูลตัวเลขเพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลเพื่อให้เห็นถึงจุดสูงสุดและต่ำสุดของเศรษฐกิจในประเทศ และติดตามสภาวะเศรษฐกิจ แต่ในบางครั้ง ทางผู้พัฒนาอสังริมทรัพย์เองก็มีการเก็บรวมรวบข้อมูลตัวเลขเกี่ยวกับโครงการของตน เพื่อคำนวณออกมาเป็นอัตราการดูดซับเช่นเดียวกัน
ตัวอย่างเช่น ครึ่งแรกของปี 2562 อัตราการดูดซับของที่อยู่อาศัยทุกประเภท ต่ำสุดในรอบ 5 ปี สำหรับบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด อัตราการดูดซับอยู่ที่ 2.6% อาคารชุด อยู่ที่ 4.8% และ ทาวน์เฮาส์ อยู่ 2.9% แสดงว่าคนมีความต้องการซื้ออสังหาฯ น้อยลง โดยประเภทของอสังหาฯ ที่คนมีความต้องการจะซื้อมากที่สุดก็คืออาคารชุด
เราสามารถนำข้อมูลนี้มาพิจารณาต่อได้ เช่น ถ้าเราอยากลงทุนปล่อยเช่า เราอาจเลือกเจาะไปที่การปล่อยเช่าอาคารชุดมากกว่าบ้านเดี่ยว เป็นต้น แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะในภายรวมของสถานการณ์ปัจจัยคาดว่าการซื้อที่อยู่อาศัยทุกกลุ่มชะลอตัวลง
อย่างไรก็ตาม เราสามารถนำอัตราการดูดซับ มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของข้อมูล ไว้ศึกษาตลาด ก่อนลงทุนเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพื่อดูว่าโครงการมีแนวโน้มเปิดตัวมาแล้วได้รับความนิยมหรือไม่ ควรเดินหน้าลงทุนกับโครงการนี้หรือเปล่านั่นเองค่ะ
ขอบคุณเนื้อหาจาก shinyurealestate.com