หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้ว หรืออาจจะมีคนที่ยังไม่รู้ว่าดอกเบี้ยที่มาจากการกู้ยืมเงินเพื่อที่จะใช้ซื้อบ้านนั้น สามารถนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีได้ ดังนั้นใครที่กำลังมีแพลนอยากซื้อบ้านหลังแรกเป็นของตัวเองต้องไม่พลาดที่จะศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ ก่อนการลงทุน
ทำไมดอกเบี้ยบ้านถึงสามารถลดหย่อนภาษีได้
สาเหตุที่ดอกเบี้ยจากการซื้อบ้านสามารถนำมาใช้ยื่นลดหย่อนภาษีได้นั้นเป็นเพราะว่าทางรัฐบาลได้ออกมาตรการเพื่อกระตุ้น จูงใจ ให้ประชาชนผู้มีรายได้ออกมาทำกิจกรรมทางการเงิน ไม่เพียงเฉพาะการซื้อบ้านเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการลงทุนในตลาดหุ้น การออมระยะยาว หรือการทำประกันชีวิตอีกด้วย
โดยมาตรการสิทธิลดหย่อนภาษี หรือ Tax Deductions คือสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ช่วยทำให้ประชาชนผู้มีรายได้และใช้จ่ายตามที่รัฐต้องการเสียภาษีน้อยลงเมื่อทำการคำนวณภาษี เพื่อบรรเทาภาระทางภาษี และอาจทำให้ได้รับเงินคืนจากภาษีมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีส่วนป้องกันการยื่นภาษีผิดพลาดทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา โดยค่าลดหย่อนภาษีไม่ได้ถูกจำกัดไว้แค่ในประมวลรัษฎากรเพียงเท่านั้น แต่จะกระจายไปตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน
กู้เงินแบบไหนถึงจะนำมาลดหย่อนภาษีได้
ดอกเบี้ยเงินกู้ยืม หรือดอกเบี้ยจากการซื้อบ้านเพื่อจะนำไปลดหย่อนภาษีได้ มีเงื่อนไข 3 ประเด็นสำคัญที่จะสามารถนำมาลดหย่อนภาษี คือ
- ต้องมีไว้เพื่อวัตถุประสงค์สำคัญ คือ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ไม่ใช่แค่บ้านแต่หมายรวมถึงคอนโด หรืออาคารชุดต่างๆ ที่ซื้อไว้เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย
- มีการกู้ยืมและจำนอง เช่น ซื้อ เช่าซื้อ หรือสร้างอาคารบนที่อยู่อาศัย คือเราสามารถกู้มาสร้างเป็นที่อยู่อาศัย หรือกู้มาสร้างบ้านบนที่ดินก็ได้ ซึ่งต้องมีการจำนองเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยจำนองเป็นสิ่งที่เราใช้อยู่อาศัย เช่น บ้าน คอนโด หรืออาคารที่สร้างบนที่ดินเพื่ออยู่อาศัย ซึ่งจะใช้เป็นหลักประกันในระยะเวลาที่เท่ากับการกู้ยืม ในส่วนนี้หากเรากู้กับสถาบันการเงินจะมีระบุไว้ในสัญญาอย่างชัดเจน
- ต้องกู้ยืมกับผู้ประกอบกิจการภายในประเทศที่กรมสรรพากรกำหนดไว้ ได้แก่ ธนาคาร บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ สหการณ์ นายจ้างที่มีกองทุนจัดสรรไว้เป็นสวัสดิการ บริษัทประกันชีวิต หรือ บริษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย
อธิบายให้เข้าใจได้ง่ายๆ ก็คือการที่เราจะต้องมีที่อยู่อาศัยไว้เพื่อที่จะนำไปกู้หรือจำนองกับคนที่ได้รับการอนุมัติตามกฎหมาย เพื่อให้ได้มาซึ่งการลดหย่อนภาษีนั่นเอง
เมื่อกู้เงินซื้อบ้าน ใช้ดอกเบี้ยลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่
ดอกเบี้ยจากการซื้อบ้านที่จะสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามที่กฎหมายกำหนดให้คือ 100,000 บาทต่อคน ซึ่ง 100,000 บาทตรงนี้ เราจะสามารถกู้บ้านกี่หลังก็ได้ เพราะจะสามารถหักลดหย่อนภาษีได้ทั้งหมดที่เป็นที่อยู่อาศัยของเรา แต่วงเงินที่จำกัดไว้คือ 100,000 บาทต่อคน หากจ่ายดอกเบี้ยกู้เงินเพื่อที่อยู่อาศัยน้อยกว่าหรือเท่ากับ 100,000 บาทก็จะสามารถลดหย่อนภาษีได้เต็มจำนวนจากดอกเบี้ยที่ซื้อบ้าน แต่หากจ่ายดอกเบี้ยไปมากกว่า 100,000 บาท จะลดหย่อนภาษีได้เท่ากับ 100,000 บาท ตามที่กำหนดไว้แต่แรกเท่านั้น
ส่วนค่าภาษีที่เราสามารถประหยัดไปได้นั้นจะคิดเป็นเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับฐานภาษีของแต่ละบุคคล โดยหลักการคำนวณภาษีคือ
- ภาษีที่ต้องจ่าย = เงินได้สุทธิ x อัตราภาษี
ซึ่งเงินได้สุทธิจะมาจากรายได้ทั้งหมดหักลบกับค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนต่างๆ เช่น ลดหย่อนภาษีบ้าน เงินที่เหลือคือเงินได้สุทธิที่จะนำไปคำนวณภาษีแบบขั้นบันไดต่อ
- เงินได้สุทธิ = เงินได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน
ในส่วนนี้ หากใครเป็นผู้มีรายได้เยอะ ก็จะได้ค่าลดหย่อยภาษีจากดอกเบี้ยบ้านมากขึ้นไปอีกด้วย
หากกู้ร่วมหลายคน สามารถใช้ดอกเบี้ยลดภาษีได้เท่าไหร่
กรณีที่บ้านหนึ่งหลังมีผู้กู้ร่วมกันหลายคน จากที่กำหนด 100,000 บาทต่อคนก็จะถูกกำหนดให้เป็น 100,000 บาทต่อหลัง หมายความว่าดอกเบี้ยที่จะนำมาขอลดหย่อนภาษีนั้นจะต้องหารเฉลี่ยตามจำนวนของผู้กู้ สูงสุด 1 หลังไม่เกิน 100,000 บาท และไม่เกินจำนวนที่จ่ายจริง
ตัวอย่างเช่น มีเพื่อน 5 คน ร่วมกันเพื่อจะกู้ซื้อบ้าน 1 หลัง ในแต่ละปีก็จะมีรอบการจ่ายดอกเบี้ยบ้านตามจริงคือ 100,000 บาท ซึ่งแต่ละคนจะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากดอกเบี้ยบ้านคนละ 20,000 บาทจากการหารเฉลี่ยจำนวนคนกับเงินที่ได้รับการลดหย่อนสูงสุด 1 หลัง คือ 100,000 บาท ต่อให้แต่ละคนจะจ่ายดอกเบี้ยไม่เท่ากันแต่ก็จะนำดอกเบี้ยมาลดหย่อนภาษีได้คนละ 20,000 อยู่ดี
ซึ่งจากการกู้เงินร่วมกันจะทำให้แต่ละคนมีสิทธิ์ได้รับการลดหย่อนภาษีบ้านต่อคนเหลืออีกคนละ 80,000 บาท ก็สามารถนำเงินส่วนนั้นไปลดหย่อนภาษีบ้านจากการกู้ / จำนองเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยได้อีกเช่นกัน จะเป็นการกู้ร่วมกับผู้อื่นอีก หรือเป็นการกู้ของตัวเองคนเดียวก็ได้ เพราะตามกฎหมายกำหนดคือจะได้รับ 100,000 บาทต่อคนนั่นเอง
สิ่งสำคัญคือการวางแผนการกู้เงินอย่างเหมาะสม เพราะถ้ากู้เกินความสามารถที่ตัวเราจะสามารถชำระหนี้ได้ จะเกิดปัญหาอื่นตามมาอย่างแน่นอน
สรุปการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีหากมีการกู้ซื้อบ้าน
การใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจะมีอยู่ 3 กรณี คือ 1. ลดหย่อนภาษีได้ หากวางแผนที่จะซื้อบ้านและต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีดอกเบี้ยบ้าน จะสามารถใช้สิทธิขอลดหย่อนภาษีสำหรับบ้านหลังแรกได้ตามที่กฎหมายกำหนดคือสูงสุดต่อคนไม่เกิน 100,000 บาท
กรณีที่ 2 คือลดหย่อนภาษีได้บางส่วน ซึ่งเกิดจากการรีไฟแนนซ์ ผู้ที่ต้องการขอลดหย่อนภาษีจะยังสามารถนำดอกเบี้ยบ้านในส่วนเงินกู้เดิมไปหักลดหย่อนภาษีได้ตามปกติ แต่จะไม่สามารถนำดอกเบี้ยในส่วนที่กู้เพิ่มไปขอลดหย่อนหรือใช้ประโยชน์อื่นได้ เพราะเงินกู้ใหม่จะถือเป็นเงินกู้ส่วนบุคคลโดยนำที่อยู่อาศัยนั้นมาเป็นหลักทรัพย์สำหรับค้ำประกันเท่านั้น จะไม่ถือเป็นการกู้เพื่อซื้อบ้านใหม่ ในเอกสารทางการเงินของธนาคารจะระบุไว้ว่าเป็นการต่อเติม ตกแต่งหรือใช้ประโยชน์อื่นส่วนตัวเท่านั้น กรณีนี้จึงยื่นขอลดหย่อนภาษีบ้านหลังแรกได้เพียงบางส่วนเท่านั้น
กรณีสุดท้ายคือลดหย่อนภาษีไม่ได้ ซึ่งก็คือการที่บางคนนำบ้านที่มีอยู่ในครอบครองอยู่แล้วไปเป็นหลักทรัพย์เพื่อค้ำประกันเงินกู้ กรณีนี้จะไม่ถือว่าเป็นการกระทำเพื่อซื้อบ้าน ตามกฎหมายจึงไม่สามารถยื่นขอลดหย่อนภาษีได้ ดังนั้นใครที่จะต้องการจะยื่นขอลดหย่อนภาษีสำหรับบ้านหลังแรกก็ควรดูเงื่อนไขการใช้สิทธิอย่างถี่ถ้วนด้วยเช่นกัน
การขอลดหย่อนภาษีนั้นจะทำให้เราลดภาระภาษีได้จำนวนหนึ่ง ซึ่งดอกเบี้ยบ้านก็สามารถช่วยลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน ตามกฎหมายจะได้รับสูงสุดต่อคน 100,000 บาท หากมีการกู้ร่วมกับคนอื่นก็จะได้สูงสุด 100,000 ต่อหลังและหารเฉลี่ยตามจำนวนคน สิทธิมาตรการลดหย่อนภาษีนั้นช่วยกระตุ้นให้ประชาชนได้หมุนเวียนเงินในทางเศรษฐกิจมากขึ้น ดอกเบี้ยจากการซื้อบ้านนอกจากจะทำให้ลดหย่อนภาษีได้แล้วนั้นยังอาจได้เงินคืนจากภาษีเพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ ยังลดปัญหาการยื่นภาษีผิดพลาดได้อีกเช่นกัน การศึกษาเรื่องภาษีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะจะเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณเองค่ะ
ที่มา: กู้เงินซื้อบ้านอย่างไรให้สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้? | AP Thai
“ถ้าคุณกำลังมองหาที่ปรึกษาด้านวิจัยพัฒนาอสังหาฯ มองมาที่เรา GenZ Property“
☎️ สนใจติดต่อ:
📲 096-789-9662 (ดร.ปู)
📲 098-236-9365(คุณปอ)
📲 Line : @GentZProperty
#service #Consultant #property #investment #management #GenZ #Genzproperty
#บริการ #ปรึกษา #อสังหาริมทรัพย์ #อสังหาฯ #นักลงทุน #บริหารธุรกิจ #รับปรึกษา #ครบวงจร