1. คิดค่าเช่าโดยคำนวณตามตารางเมตร
การคิดค่าเช่าตามตารางเมตร คิดได้จากการนำค่าเช่าของห้องที่มีลักษณะใกล้เคียงกันกับห้องของเรา และตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพเดียวกัน
เช่น ห้องของคุณเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน มีขนาด 35 ตารางเมตร ในราคา 3.5 ล้านบาท ก็นำมาเปรียบเทียบกับห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 40 ตารางเมตร บนทำเลที่ใกล้เคียงกัน ที่ปล่อยเช่าในราคาเดือนละ 20,000 บาท
ราคาปล่อยเช่าที่นำมาเปรียบเทียบ 20,000 หารด้วยขนาดห้อง 40 ตารางเมตร
20,000 / 40 = 500 บาทต่อตารางเมตร
เมื่อได้ราคา 500 ต่อตารางเมตรมาแล้วก็นำมาใช้ในการตั้งค่าเช่าของเราเองที่ขนาด 35 ตารางเมตร
35 x 500 = 17,500 บาทต่อเดือน
จากราคาที่คิดออกมาได้อาจจะยังไม่ได้เป็นราคาคิดที่คุ้มค่าแล้ว ต้องคำนึงถึงจำนวนค่างวดต่อเดือนกับธนาคารว่าพอดีหรือไม่ หรืออาจจะเพิ่มค่าเช่าอีกเล็กน้อยเพื่อเป็นกำไรให้กับเราได้
2. คิดจากการเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทน (Rental Yield)
ผลตอบแทนของคอนโดในแต่ละพื้นที่จะมีอัตราที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะคิดออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ เพื่อหาค่าปล่อยเช่าในแต่ละเดือน
เช่น kawa HAUS คอนโดสุขุมวิทตอนปลายในพื้นที่ T77 ที่ได้รับการวิเคราะห์ว่า อาจมีอัตราค่าเช่ามากกว่า 8% (อ่านเพิ่มเติมต่อได้ที่ kawa HAUS สุขุมวิท 77 โอกาสใหม่กับการลงทุนในย่านสุขุมวิท) ซึ่งหากลองสมมุติราคาคอนโดที่ 3,600,000 บาท และวางอัตราค่าเช่ากลาง ๆ ไว้ที่ 5.5% เราก็จะได้รับผลตอบแทนสูงถึงเกือบ 200,000 บาทต่อปี หรือ 16,500 บาทต่อเดือน
จะพบว่าราคาปล่อยเช่าต่อเดือนเบื้องต้นจะอยู่ที่ 16,500 บาท แต่ยังมีค่าซ่อมบำรุง ที่อาจบวกเพิ่มเข้าไปได้ เช่น ค่าส่วนกลาง ค่า คอมมิชชั่นให้ตัวแทนในการจัดหาคนเช่า ค่าล้างแอร์ เป็นต้น
แหล่งอ้างอิง